Posted on Leave a comment

ปวดเข่าซ้าย ปวดเข่าขวา ระวังเป็นโรคปวดเข่าต่างๆ

โรคปวดเข่า

ปวดเข่าซ้าย ปวดเข่าขวา ระวังอย่าละเลยปัญหานี้

เข่าเป็นข้อต่อที่สำคัญของขา อาการปวดเข่าเป็นอาการที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้ลำบากมากขึ้น เช่น นั่ง เดิน หรือการปรับเปลี่ยนอริยบทต่างๆ ทำได้ลำบากมากขึ้น ซึ่งถ้าคุณปวดเข่ามีโอกาสที่คุณเสี่ยงโรคเหล่านี้สูงมาก

ปวดเข่าซ้าย ปวดเข่าขวา

โรคปวดเข่าต่างๆ ที่คุณอาจจะเป็นอยู่ดังนี้

1. โรคข้อเข่าเสื่อม

จัดว่าเป็นโรคยอดฮิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยพฤติกรรมของคนไทยที่ชอบนั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบ นั่งคุกเข่ากันบ่อยๆ ร่วมกับอายุที่มากขึ้น กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงจนทำให้กล้ามเนื้อมีแรงน้อยลงในการพยุงข้อเข่าจนหมอนรองกระดูกข้อเข่าค่อยๆเสื่อม จนกลายเป็นโรคข้อเสื่อมในที่สุด ซึ่งกว่าจะเป็นเข่าเสื่อมได้นั้นก็กินเวลากันเป็นปีๆ

จุดสังเกตุโรคเข่าเสื่อม

  • มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน ส่วนใหญ่ก็คืออายุ 45 ปีขึ้นไป
  • ตำแหน่งที่ปวดนั้น มักปวดที่ข้อเข่าด้านในมากกว่าส่วนอื่นทั้งหมด
  • รู้สึกข้อเข่าฝืดในช่วงเช้าหลังตื่นนอน แต่เมื่อเดินไปสักพักข้อเข่าก็จะเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น ฝืดน้อยลง
  • ปวดมากขึ้นเมื่อพยายามงอเข่า พับเข่า โดยจะมีความรู้สึกตึงๆขัดๆเสียวๆอยู่ในข้อเข่าด้านหลังเวลางอเข่า (แต่บางรายก็ปวดรอบๆเข่าทั่วไปหมดก็มี)
  • ไม่สามารถนั่งขัดสมาธิได้ หากนั่งขัดสมาธิก็ต้องนั่งเหยียดขาขางที่ปวดออก
  • ในระยะเริ่มแรกที่เป็นอาจมีภาวะข้อเข่าบวม จากนํ้าเลี้ยงข้อที่เพิ่มขึ้นเพื่อพยายามซ่อมแซมเนื้อเยื่อในเข่าที่เสียหาย
  • หากเป็นมานานจะเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเข่า นั่นคือมีภาวะเข่าโก่ง
  • มีเสียงดังกร๊อบแกร็บในข้อเข่า จากภาวะที่เข่าหลวมทำให้ผิวข้อกระดูกเสียดสีกันจนเกิดเสียงขึ้น

2. โรคอาการปวดใต้ข้อพับเข่าจากกล้ามเนื้ออักเสบ

สำหรับโรคปวดใต้ข้อพับเข่าจากกล้ามเนื้ออักเสบ เป็นอาการปวดเข่าด้านหลังที่ไม่ค่อยพบในผู้สูงอายุ  แต่จัดว่าเป็นโรคที่พบได้เฉพาะในกลุ่มนักกีฬาวิ่งเร็ว หรือกีฬาที่ต้องมีการกระโดดอยู่เป็นประจำ ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง หรือกล้ามเนื้อ hamstring นั้นถูกฉีกกระชาก ถูกใช้งานหนักบ่อยๆเข้า จนเส้นใยกล้ามเนื้อบางส่วนฉีกขาดและเกิดการอักเสบขึ้นนั่นเอง

โดยอาการปวดจะเกิดขึ้นที่บริเวณใต้ข้อพับเข่า และจะปวดมากขึ้นเมื่อผู้ป่วยพยายามวิ่งเร็ว กระโดด ทำกิจกรรมที่ต้องมีการงอเข่าอยู่บ่อยๆ หรือยืดกล้ามเนื้อ hamstring โดยการนั่งเหยียดขาก้มตัวแตะปลายเท้า ซึ่งการยืดกล้ามเนื้อก็จะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดมากขึ้นได้

3. โรคอาการปวดข้างเข่าด้านนอกจากพังผืดอักเสบ

โรค IT band syndrome ก็จัดว่าเป็นโรคเฉพาะกลุ่มอีกเช่นกัน มักพบในกลุ่มนักวิ่งมาราธอน หรือนักปั่นจักรยานทางไกล โดยจะมีอาการปวดที่ข้างเข่าทางด้านนอก ซึ่งเกิดจากตัวพังผืดของเข่า ไปเสียดสีกับปุ่มกระดูกที่อยู่ข้างเข่าด้านนอก ในขณะที่เราวิ่งหรือปั่นจักรยาน เมื่อเกิดการเสียดสีบ่อยๆเข้า ก็ทำให้ตัวพังผืดเกิดการฉีกขาดขึ้นบางส่วน และเกิดการอักเสบขึ้นในที่สุดจนกลายเป็นที่มาของโรคอาการปวดข้างเข่าด้านนอก จากพังผืดอักเสบ

โดยข้อสังเกตุของโรคนี้ของคนที่เป็นโรคนี้ก็คือ มักจะปวดเมื่อวิ่งไปถึงระยะทางเดิมๆก็จะเริ่มมีอาการปวดเกิดขึ้น และหากยังคงฝืนวิ่งต่อไปก็จะปวดมากขึ้นจนวิ่งต่อไม่ไหว เช่น เมื่อผู้ป่วยวิ่งในระยะแรกๆจะไม่มีอาการปวด แต่พอวิ่งไปได้ระยะทางที่ 2,000 เมตร ก็จะเริ่มมีอาการปวดที่ข้างเข่าด้านนอกทันที พอพักได้ 2-3 วัน กลับไปวิ่งใหม่ และเมื่อวิ่งไปได้ระยะทาง 2,000 เมตรอาการปวดก็กำเริ่มขึนอีก เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่วิ่งออกกำลังกาย อาการปวดส่วนใหญ่ก็จะอยู่แค่ข้างเข่าด้านนอก แต่บางรายก็จะมีอาการปวดที่ข้างต้นขาด้านนอกทั้งแถบเลยก็ได้ในกรณีที่ปวดเรื้อรังมานาน

4. โรคเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด

โรคเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด จัดว่าเป็นโรคยอดฮิตในหมู่นักฟุตบอล หรือในกลุ่มคนที่ชอบเล่นกีฬาที่ต้องมีการวิ่งซิกแซ็กหลบหลีกคู่ต่อสู้อยู่บ่อยๆ สาเหตุหลักๆก็มาจากการวิ่งลงนํ้าหนักและเกิดเข่าบิดในขณะที่เข่าเหยียดตรงอยู่ ทำให้เส้นเอ็นไขว้หน้าถูกกระชากจนฉีกขาด หรือไม่ก็เกิดจากเรายืนเหยียดเข่าอยู่เฉยๆ แต่จู่ๆ มีคนมาสไลด์ชนปลายเท้าเราทำให้เข่าบิดจนเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดได้เช่นกัน สรุปคือเอ็นไขว้หน้าเข่าจะฉีกขาดได้ก็ต่อเมื่อมีแรงมากระทำต่อข้อเข่าของเรา และมักพบในกลุ่มเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่ชอบเล่นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งอยู่เป็นประจำ

อาการหลักของคนเป็นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดก็คือ เมื่อเอ็นขาดใหม่ๆ ข้อเข่าจะบวมภายในไม่กี่ชั่วโมง มีบวม แดง และร้อนอย่างชัดเจนที่ข้อเข่า ไม่สามารถเดินลงนํ้าหนักของขาข้างที่มีปัญหาได้ รู้สึกข้อเข่าไม่ค่อยมีความมั่นคง (เข่าหลวม) ขณะเดินจะรู้สึกว่าหน้าแข้งมันจะเคลื่อนไปด้านหน้าตลอด เป็นต้น

5. โรคข้อเข่านักกระโดด

ในบรรดาโรคที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดเข่าทั้งหมดที่กล่าวมา โรคข้อเข่านักกระโดดจัดว่าเป็นโรคที่พบได้น้อยที่สุดแล้ว เพราะโรคนี้มักพบในกลุ่มนักกีฬาหรือคนที่ชอบออกกำลังกายโดยการกระโดดอยู่เป็นประจำ ซึ่งเกิดจากเส้นเอ็นใต้ลูกสะบ้าถูกฉีกกระชากจากกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า หดตัวอย่างเร็วและแรงในขณะที่เรากำลังกระโดดขึ้นนั่นเอง

อาการของผู้ที่เป็นโรคนี้ก็คือ จะมีอาการปวดที่ข้อเข่าทางด้านหน้า โดยเฉพาะตำแหน่งใต้ลูกสะบ้า เมื่อกดลงไปตรงเอ็นใต้ลูกสะบ้าจะยิ่งทำให้เจ็บปวดมากยิ่งขึ้น บางรายก็มีอาการปวดรอบๆลูกสะบ้าเลยก็มี โดยอาการปวดนั้นจะปวดที่ผิวๆ หาจุดกดเจ็บเจอได้ง่าย แต่ถ้าเป็นข้อเข่าเสื่อมก็จะมีอาการปวดด้านหน้าเข่าได้เช่นกัน จะต่างกันตรงที่ผู้ที่เป็นข้อเข่าเสื่อมนั้นจะรู้สึกปวดลึกๆ อยู่ข้างในเข่า หาจุดกดเจ็บไม่เจอ

6. โรคเข่าแม่บ้าน

หากจะบอกว่าโรคข้อเข่านักกระโดดพบได้น้อยแล้ว โรคเข่าแม่บ้านจัดว่าพบได้น้อยยิ่งกว่า เพราะคนจะเป็นโรคนี้จะมีอยู่ 2 ส่วนหลักๆ คือ ชอบนั่งคุกเข่าในลักษณะที่นํ้าหนักตัวกดลงไปที่ลูกสะบ้าโดยตรงเหมือนท่านั่งคุกเข่าถูพื้น (เพราะเหตุนี้เค้าถึงเรียกกันว่า โรคเข่าแม่บ้าน) กับอีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากล้มข้อเข่ากระแทกพื้นโดยตรง ทำให้ถุงนํ้าที่อยู่บนลูกสะบ้าได้รับการกระทบกระเทือนและเกิดอับเสบขึ้นจนปวดบวมอย่างชัดเจน


arukouthailand ผลิตภัณฑ์ซัพพอร์ตเข่า คุณสามารถปรึกษาเกี่ยวกับเข่าของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี