Posted on Leave a comment

ข้อควรรู้กับ “ยาเพิ่มน้ำในข้อเข่า”

ยาเพิ่มน้ำในข้อเข่า

ข้อเข่าของเรา มีลักษณะคล้ายกับข้อต่อ (Joint) ของเครื่องยนต์ ประกอบด้วย กระดูกผิวข้อ ซึ่งมีลักษณะเรียบลื่น เป็นมันวาว มีสีและลักษณะคล้ายกับผิวของงาช้าง ภายในมีส่วนสำคัญมากอย่างหนึ่งก็คือ “น้ำเลี้ยงข้อ” มีลักษณะเป็นของเหลวใสอยู่ภายในช่องว่างของข้อเข่า มีลักษณะพิเศษคือ มีความเหนียว ยืดหยุ่นได้ และเหมือนไข่ขาว ทำหน้าที่ในการช่วยลดหรือดูดซับแรงกระแทกต่อเข่า ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ทำหน้าที่คล้ายๆ โช้กอัพ และช่วยหล่อลื่น ลดแรงเสียดทานของผิวข้อเหมือนกับน้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันจาระบี

ในข้อเข่าที่เป็นปกติจะมีช่องว่างระหว่างข้อต่อ ในช่วงนั้นจะมีของเหลวที่มีลักษณะใส หนืด และลื่นบรรจุอยู่ เรียกว่า น้ำเลี้ยงข้อ (synovial fluid) โดยทั่วไปในบริเวณข้อเข่าจะมีน้ำเลี้ยงข้อปริมาณประมาณ 2 มิลลิลิตร  แต่ในข้อเข่าที่มีขนาดเล็ก เรียงข้ออาจจะมีปริมาณน้อยกว่านั้น

น้ำเลี้ยงข้อมีหน้าที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่

  • กระจายแรงกระแทกได้ดี เพราะนำเรียงข้อมีลักษณะเหนียว เมื่อมีแรงมากระทำ น้ำเหนียว ๆ นี้จะกระจายแรงไปทั่ว ๆ ข้อ ทำหน้าที่เหมือนเบาะรองรับข้อต่อ ลดแรงกระแทกต่อกระดูกอ่อนผิวข้อ
  • หล่อลื่นข้อ ทำให้การเคลื่อนไหวข้อเป็นไปอย่างราบรื่นดีขึ้น
  • นำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงกระดูกอ่อนผิวข้อ แนะนำของเสียจากกระดูกอ่อนออกจากข้อผ่านเข้าไปยังเส้นเลือดและน้ำเหลือง เพราะข้อของเราไม่มีเลือดมาเลี้ยง สารอาหารทุกอย่างจึงต้องลำเลียงผ่านทางน้ำเลี้ยงข้อเท่านั้น

ส่วนประกอบของน้ำเลี้ยงข้อเข่า

น้ำเลี้ยงข้อประกอบไปด้วยกรดไฮยาลูโรนิก (hyaluronic acid) ที่มีความเข้มข้นประมาณ 3 –  4 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร จะประกอบด้วยหลาย ๆ โมเลกุลมาเกาะกัน ทำให้เป็นโมเลกุลใหญ่ขนาด 6,500 – 11,000 กิโลดาลตัน จึงรองรับน้ำหนักข้อได้ดี เมื่อสังเคราะห์มาแล้วจะอยู่ในเนื้อข้อได้นานถึง 20 ชั่วโมง

“กิโลกรัมดาลตัน คือ หน่วยน้ำหนักของสารชีวโมเลกุลขนาดใหญ่โดยเฉพาะ เป็นหน่วยน้ำหนักโมเลกุลของโปรตีนและเอนไซม์ เช่น โปรตีนมีน้ำหนักโมเลกุล 100,000  ดาลตัน หรือเท่ากับ 100 กิโลดาลตัน”

สารลูบริซิน (lubrisin) ซึ่งเป็นไกลโคโปรตีน มีลักษณะคล้ายเมือก มีความหนืดและมีความยืดหยุ่นสูง มีหน้าที่ป้องกันการสัมผัสและการสึกกร่อนของกระดูกอ่อน รวมทั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์เยื่อหุ้มข้อ

ผู้ที่มีอาการข้อเสื่อม น้ำเลี้ยงข้อจะมีความผิดปกติ คือ มีความเข้มข้นลดลงและความยืดหยุ่นลดน้อยลง เนื่องจากสารไฮยาลูโรนิกเสื่อมคุณภาพ จึงมีน้ำหนักโมเลกุลโดยรวมน้อยกว่าของคนปกติ (แต่ละโมเลกุลไม่เกาะกันดังเดิม น้ำหนักมวลจึงลดลงเหลือประมาณ 2,700 – 4,500 กิโลดาลตัน) ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สูญเสียคุณสมบัติการรองรับแรงกระแทก เมื่อมีแรงกดลง กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ป้องกันปลายกระดูกของกระดูกต้นขาและกระดูกหน้าแข้งจะเกิดการกระทบกระแทกและเสียดสีกัน พึ่งเป็นต้นเหตุของการอักเสบ ปวดบวมที่เกิดขึ้น นอกจากนี้พอมีการสร้างขึ้นมาใหม่ก็จะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว จึงอยู่ได้นานแค่ 11 ชั่วโมงเท่านั้น

ส่วนประกอบของน้ำเลี้ยงข้อ

แนวทางการรักษาโรคข้อเสื่อมมีหลายวิธี และจุดมุ่งหมายของการรักษาทุกวิธีคือ ท่าลดอาการปวด ทำให้ข้อเคลื่อนไหวดีขึ้น ให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แต่การมุ่งหวังที่จะแก้ไขข้อที่ผิด หรือทำให้กระดูกอ่อนหนาขึ้นมานั้นยังไม่มีวิธีการใด ๆ ที่ได้ผลชัดเจน ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่กลัวการผ่าตัดจึงพยายามหาหนทางการรักษาอื่น ๆ ซึ่งการฉีดยาหล่อเลี้ยงข้อเทียม หรือ viscosopplementation ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาสำหรับผู้ที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า หากปล่อยให้ข้อเข่าเสื่อม จะมีการเปลี่ยนแปลงความสมดุลของน้ำเลี้ยงข้อ จากภาวะความเป็นกลางไปเป็นภาวะความเป็นกรด ซึ่งจะเป็นตัวเร่งการทำลายความสมบูรณ์ของผิวข้อมากขึ้นเรื่อยๆ ภาวะข้อเสื่อมก็จะเป็นมาก และเป็นเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการหมั่นดูแลรักษาสุขภาพของข้อเข่าให้ถูกต้องแต่แรก จะช่วยยืดอายุการใช้งานของข้อเข่าให้ทำหน้าที่รับใช้เราได้ยาวนานขึ้น คนที่มีน้ำหนักมากและมีดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 25 ถ้าควบคุมหรือลดน้ำหนักได้ ก็จะช่วยลดแรงกระแทกต่อผิวข้อ ทำให้อาการปวดเข่าหายไปได้ คนที่นั่งงอเข่าเป็นระยะเวลาต่อเนื่องนานๆ ต้องฝึกเหยียดเข่าบ่อยๆ เพื่อลดแรงกดของกระดูกสะบ้ากับกระดูกปลายเข่า ร่วมกับการฝึกออกกำลังบริหารกล้ามเนื้อรอบๆ เข่า และต้นขา เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อให้ทำงานแบ่งเบาภาระการทำงานของข้อต่อ

แต่ถ้าหากอยากป้องกันภาวะข้อเข่าเสื่อม หรือเริ่มเสื่อมไปบ้างแล้ว คุณหมอแนะนำว่า ในปัจจุบันมีวิธีเติมน้ำเลี้ยงข้อเข่า เพื่อทดแทนน้ำเลี้ยงข้อที่มีการลดลง โดยการนำน้ำเลี้ยงข้อสังเคราะห์ซึ่งมีลักษณะและคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำเลี้ยงข้อปกติ มาช่วยในการป้องกันและรักษา โดยการฉีดเข้าไปในข้อเข่าที่มีอาการ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3-5 สัปดาห์ ซึ่งมีผลการรักษาอยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับสภาวะข้อที่เสื่อม จุดประสงค์เพื่อช่วยหล่อลื่น และกระตุ้นเซลล์เยื่อบุข้อให้ทำการสร้างน้ำเลี้ยงเข่าที่ปกติขึ้นมาทดแทน เป็นวิธีที่ปลอดภัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเลือกให้น้ำเลี้ยงข้อเข่านี้กับผู้ที่ได้รับการรักษาโดยการรับประทานยา ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร

arukouthailand ผลิตภัณฑ์ซัพพอร์ตเข่า คุณสามารถปรึกษาเกี่ยวกับเข่าของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ฟรี